2410.Azumino
Rail Travel

เต็มอิ่มกับซากุระ! กับวิวชวนหลงใหลของรถไฟและดอกซากุระ

เต็มอิ่มกับซากุระ! กับวิวชวนหลงใหลของรถไฟและดอกซากุระ

อัปเดตเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2024
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2022

 

เมื่อพูดถึงฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่นก็ต้องนึกถึงดอกซากุระ (桜) สีชมพูที่ทั้งสวยงามและบอบบาง ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติจากทั่วทุกสารทิศต่างเผ้ารอที่จะมารวมตัวกันเพื่อชื่นชมความงามของดอกไม้ที่ร่วงเร็วเหล่านี้อย่างใจจดใจจ่อ แม้ว่าดอกซากุระที่บานเต็มที่จะงดงามในตัวมันเองอยู่แล้ว แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบอะไรที่มีชีวิตชีวาหรือมีให้เห็นเพียงชั่ววูบกว่านั้น ลองมาชมวิวซากุระบนรถไฟกันดูไหมคะ?

 

รถไฟยังคงเป็นพาหนะที่ใช้ในการเดินทางมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และคุณก็คงคิดเหมือนกันว่าการชมขบวนรถไฟเคลื่อนที่ผ่านดอกไม้หลากสีในฉากหลังก็น่าดึงดูดใจเป็นพิเศษ ภาพนี้ปรากฏให้เห็นเพียงไม่กี่วินาที (หรืออาจถึงนาทีถ้าคุณโชคดี) ดังนั้นการตั้งตารอและการจับภาพ ณ ช่วงเวลานั้นได้จึงเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นสุดๆ !

 

แผนที่แสดงจุดที่เราแนะนำในบทความนี้ (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)

 

สถานีรถไฟและทางรถไฟหลายแห่งนั้นรายล้อมไปด้วยซากุระ แต่สถานที่ในญี่ปุ่นตะวันออกที่ฉันจะมาแนะนำในบทความนี้มีทิวทัศน์อันยอดเยี่ยมยิ่งกว่าแค่ต้นซากุระอีกนะคะ คุณพร้อมไหม? ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย~

 

① สวนอาชิโนะ | จ.อาโอโมริ

ช่วงเวลาเที่ยวชม: ปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคม (แตกต่างกันในแต่ละปี)

การเดินทาง: จากสถานี JR Goshogawara (五所川原駅) เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Tsugaru Railway Line แล้วลงที่สถานี Ashinokо̄en (芦野公園駅)

 

วิวจากชานชาลาที่สถานี  Ashinokо̄en (เครดิตรูปภาพ: 青森県観光連盟)

 

ที่แรกในลิสต์ของเราคือ สวนอาชิโนะ (芦野公園 Ashino Kо̄en) ที่ซ่อนตัวอยู่ในแถบสึการุ จังหวัดอาโอโมริ จังหวัดที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของเกาะฮอนชูซึ่งเป็นเกาะหลักของญี่ปุ่น ทันทีที่ลงจากรถไฟสาย Tsugaru Railway Line ที่สถานี Ashinokо̄en (芦野公園駅) คุณจะเจอกับวิวดอกซากุระที่ขนาบทั้งสองฝั่งของรางรถไฟรอต้อนรับคุณอยู่

 

ภาพของรถไฟสีส้มสดใสที่วิ่งผ่านอุโมงค์ซากุระเป็นภาพที่งดงามตระการตาและดึงดูดให้ผู้คนหลายพันคนมาเยือนในแต่ละปี สวนอาชิโนะมีต้นซากุระประมาณ 1,500 ต้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธุ์โซเมโยชิโนะสีชมพูอ่อน สวนนี้ยังเป็นสวนที่สมาคมดอกซากุระญี่ปุ่น (Japan Cherry Blossom Association) จัดให้เป็นหนึ่งใน 100 จุดชมซากุระที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น (日本さくら名所100選) อีกด้วย

 

คุณสามารถเพลิดเพลินกับซากุระได้ที่ชานชาลา ด้านหน้าอาคารสถานี Ashinokōen เดิม บนเรือถีบ และที่อื่นๆ อีกมากมาย (เครดิตรูปภาพ: 青森県観光連盟)

 

ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม จะมีการจัดเทศกาล Kanagi Sakura Festival (金木桜まつり Kanagi Sakura Matsuri) ขึ้นที่สวนอาชิโนะ โดยมีกิจกรรมมากมายให้ผู้ร่วมงานได้เพลิดเพลินกัน ไม่ว่าจะเป็นการประดับไฟในตอนกลางคืน ดอกไม้ไฟ และการแสดงชามิเซ็น (三味線 เครื่องสายญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม) ที่ทุกคนรอคอย เพราะภูมิภาคสึการุนั้นขึ้นชื่อเรื่องนักเล่นชามิเซ็นมากฝีมือ ในช่วงเทศกาล สวนสาธารณะจะเปิดจนถึงเวลา 21:00 น. เพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับวิวซากุระในยามค่ำคืน (夜桜 yozakura)

 

② สะพานชิบาตะเซโนเคียว ที่ฮิโตเมะ เซ็มบงซากุระ | จ.มิยางิ

ช่วงเวลาเที่ยวชม: ต้นถึงกลางเดือนเมษายน (แตกต่างกันในแต่ละปี)

การเดินทาง: เดินจากสถานี JR Funaoka (船岡駅) หรือสถานี JR О̄gawara บนทางรถไฟสาย JR Tohoku Main Line

 

รถไฟวิ่งไปตามแนวต้นซากุระที่ฮิโตเมะ เซ็มบงซากุระ โดยมีภูเขาซาโอะเป็นฉากหลัง (เครดิตรูปภาพ: U-media)

 

ต่อไปเราจะมุ่งหน้าลงใต้ไปยังริมฝั่งแม่น้ำชิโรอิชิ (白石川) ในจังหวัดมิยางิ ณ สถานที่ที่ชื่อว่า ฮิโตเมะ เซ็มบงซากุระ (一目千本桜 Hitome Senbonzakura) ซึ่งแปลตรงตัวได้ว่า “ซากุระ 1,000 ต้นที่เห็นได้พร้อมกันทีเดียว” ทิวทัศน์อันตระการตาของรถไฟที่วิ่งขนาบแนวต้นซากุระที่พลิ้วไหวอย่างแผ่วเบาในสายลมโดยมีภูเขาซาโอะที่ยอดปกคลุมด้วยหิมะอยู่เบื้องหลังนั้น จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน! คุณสามารถชมวิวนี้ได้อย่างง่ายดายจากบนสะพานชิบาตะเซ็นโอเกียว (しばた千桜橋 Shibata Sen’о̄kyо̄) ที่สร้างขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ในปี 2015 ตัวสะพานอยู่ห่างจากสถานี JR Funaokaโดยใช้เวลาเดินเพียง 15 นาที

 

วิวสวยๆ รอบๆ ฮิโตเมะ เซ็มบงซากุระ (เครดิตรูปภาพ: U-media)

 

นอกจากวิวจากสะพานชิบาตะเซ็นโอเกียวแล้ว คุณยังสามารถชมทัศนียภาพที่หลากหลายแบบพาโนรามาขณะที่เดินเล่นไปตามริมแม่น้ำชิโรอิชิได้อีกด้วย ภาพของเรือท่องเที่ยวที่แล่นไปตามแม่น้ำ ทิวทัศน์ของดอกซากุระ ภูเขาที่ยอดปกคลุมด้วยหิมะ และท้องฟ้าสีครามที่สะท้อนให้เห็นชัดในแม่น้ำเป็นภาพที่สวยสะกดทุกสายตา ด้วยวิวทิวทัศน์ที่หลากหลายและน่าตื่นเต้นเหล่านี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ฮิโตเมะ เซ็มบงซากุระจะเป็นหนึ่งใน 100 จุดชมซากุระยอดนิยมในญี่ปุ่นด้วย

 

ใกล้ๆ กันนั้นยังมีสวนซากปราสาทฟุนาโอกะ (船岡城址公園 Funaoka Jо̄shi Kо̄en) ที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์บนรถรางย้อนยุคที่วิ่งผ่านอุโมงค์ซากุระยาว 300 เมตรได้!

 

ตามไปอ่านคู่มือแนะนำวิธีการเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่ดีเยี่ยมที่สุดที่ฮิโตเมะ เซ็มบงซากุระ ได้ในอีกบทความหนึ่งของฉันที่นี่

 

③ สวนคาโจ | จ.ยามากาตะ

ช่วงเวลาเที่ยวชม: กลางถึงปลายเดือนเมษายน (แตกต่างกันในแต่ละปี)

การเดินทาง: เดิน 10 นาที จากสถานี JR Yamagata (山形駅) บนทางรถไฟสาย Yamagata Shinkansen Line / JR Ou Main Line / JR Senzan Line / JR Aterazawa Line

 

รถไฟ Tsubasa E3 ซีรีส์ กำลังวิ่งผ่านสวนคาโจ (เครดิตรูปภาพ: annintofu / CC BY-NC-ND 2.0)

 

คุณชื่นชอบปราสาทญี่ปุ่นหรือเปล่า? ในจังหวัดยามากาตะนั้น เพียงเดิน 10 นาทีจากสถานี JR Yamagata (山形駅) คุณก็จะพบกับสวนคาโจ (霞城公園 Kajо̄ Kо̄en) ซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทยามากาตะ ปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ รางรถไฟถูกสร้างขึ้นข้างๆ สวน ทำให้คุณสามารถดื่มด่ำกับทัศนียภาพของกำแพงหิน คูเมือง ดอกซากุระ และชินกันเซ็น (新幹線 รถไฟหัวกระสุน) ที่วิ่งผ่านมาได้ แต่ตอนจะถ่ายรูปต้องรีบหน่อยนะ เพราะแม้ว่าชินกันเซ็นจะไม่ได้วิ่งที่ความเร็วสูงสุดเนื่องจากอยู่ใกล้สถานีแล้ว แต่รถไฟก็ยังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมากอยู่ดี!

 

นอกจากชินกันเซ็นแล้ว รถไฟธรรมดาที่วิ่งบนทางรถไฟ JR Ou Main Line, JR Aterazawa Line และ JR Senzan Line ก็วิ่งบนรางเส้นทางนี้เช่นกัน

 

รถไฟท้องถิ่นวิ่งผ่านสวนคาโจในยามเย็น (เครดิตรูปภาพ: annintofu / CC BY-NC-ND 2.0)

 

ตอนเย็นในช่วงที่ดอกซากุระกำลังบานเต็มที่ จะมีการประดับไฟที่ต้นซากุระซึ่งทำให้เกิดภาพที่สวยงามสะท้อนน้ำในคูน้ำ น้ำในคูน้ำค่อนข้างนิ่ง ทำให้กลีบดอกซากุระร่วงหล่นจากต้นนั้นลอยทับถมกันอยู่บนน้ำ และกลายเป็นพรมซากุระ (花筏 hana ikada) สีชมพูในที่สุด

 

④ Yamagata Railway Flower Nagai Line | จ. ยามากาตะ

ช่วงเวลาเที่ยวชม (ซากุระ): กลางถึงปลายเมษายน (แตกต่างกันในแต่ละปี)

การเดินทาง: จากสถานี JR Akayu (赤湯駅) บนทางรถไฟ Yamagata Shinkansen Line หรือ สถานี JR Imaizumi (今泉駅) บนทางรถไฟ JR Yonesaka Line เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ Yamagata Railway Flower Nagai Line (山形鉄道フラワー長井線)

 

เพลิดเพลินไปกับวิวของทิวแถวซากุระและภูเขาที่ยอดปกคลุมด้วยหิมะอยู่เบื้องหลัง (เครดิตรูปภาพ: 山形県庁)

 

ยังคงอยู่กันที่จังหวัดยามากาตะ สถานที่ถัดไปไม่ได้เป็นสถานที่ ณ จุดใดจุดหนึ่ง แต่เป็นทางรถไฟทั้งสาย นั่นคือทางรถไฟ Yamagata Railway Flower Nagai Line (山形鉄道フラワー長井線) ที่มีความยาว 30.5 กิโลเมตร ซึ่งให้เราได้ชมวิวของรถไฟและดอกไม้ วิวที่มีชื่อเสียงที่สุดคือวิวในภาพด้านบน ภาพของรถไฟที่วิ่งไปตามแนวต้นซากุระโดยมีเทือกเขาอาซาฮี (Asahi Mountain Range) ที่ยอดปกคลุมด้วยหิมะเป็นฉากหลัง คุณสามารถชมวิวนี้ได้ทันทีหลังจากที่รถไฟวิ่งข้ามสะพานโมกามิกาวะเคียวเรียว  (最上川橋梁 Mogamigawa Kyо̄ryо̄) สะพานรถไฟที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาทีจากสถานี Arato (荒砥駅)

 

ขบวนรถไฟกับดอกซากุระ ดอกแดฟโฟดิล ดอกทานตะวัน และดอกไอริส (เครดิตรูปภาพ: 東北観光推進機構)

 

อย่างที่คุณน่าจะเดาได้จากชื่อ ทางรถไฟ  Flower Nagai Line ได้ชื่อมาจากจุดชมดอกไม้สวยๆ ที่สามารถเพลิดเพลินได้ระหว่างทางในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน นอกจากดอกซากุระที่หลายคนรักแล้ว คุณยังสามารถดื่มด่ำไปกับดอกไม้หลากสีสันได้อีกมากมายหลายชนิด เช่น ดอกไอริส (あやめ ayame) ดอกคำฝอย (紅花 benibana ดอกไม้ประจำจังหวัดยามากาตะ) ดอกแดฟโฟดิล (水仙 suisen) ดอกดาเลีย ดอกทานตะวัน และอีกมากมาย!

 

เพลิดเพลินกับวิวของรถไฟที่ปกคลุมด้วยลวดลายดอกไม้วิ่งผ่านทิวทัศน์ในชนบทที่แสนผ่อนคลาย (เครดิตรูปภาพ: 東北観光推進機構)

 

และเพื่อเพิ่มความน่าสนใจเข้าไปอีก รถไฟบางขบวนจะถูกปกคลุมด้วยลวดลายดอกไม้หลากสีที่แตกต่างกันไปตามฤดูกาล ยามากาตะมีความหมายแบบตรงตัวว่า “รูปทรงของภูเขา” และยังเป็นจังหวัดที่มีภูเขามากมายด้วย ทำให้ตามเส้นทาง Flower Nagai Line เรามักจะมองเห็นภูเขาอยู่เป็นฉากหลัง ตลอดเส้นทางนี้มีอาคารตั้งอยู่ห่างๆ กันเพียงไม่กี่อาคารเท่านั้น ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวชนบทที่มีภูเขาที่ยอดปกคลุมไปด้วยหิมะและนาข้าวได้อย่างเต็มที่แบบไม่มีอะไรมาบัง

 

⑤ ซากุระพันธ์ุย้อยที่ Nicchu Line | จ.ฟุกุชิมะ

ช่วงเวลาเที่ยวชม: กลางถึงปลายเดือนเมษายน (แตกต่างกันในแต่ละปี)  

การเดินทาง: เดิน 20 นาทีจากสถานี JR Kitakata (喜多方駅) บนทางรถไฟ JR Ban-etsu West Line

 

รถจักรไอน้ำที่ปลดระวางแล้วท่ามกลางหมู่ต้นซากุระ (เครดิตรูปภาพ: 福島県観光物産交流協会)

 

มุ่งหน้าต่อไปยังจังหวัดฟุกุชิมะ ในเมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่าคิตากาตะ มีต้นซากุระพันธุ์ย้อย (しだれ桜 shidare-zakura) อยู่ตามแนวทางเดิน Nicchu Line Memorial Cycling Pedestrians’ Path (日中線記念自転車歩行者道のしだれ桜並木 Nicchūsen kinen jitensha hokōshadō no shidare-zakura namiki) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า เส้นทางนิจจูซากุระพันธุ์ย้อย หรือ Nicchu Line Weeping Cherry Blossoms (日中線しだれ桜並木 Nicchūsen Shidare-zakura Namiki)

 

ระหว่างทางจะพบกับรถจักรไอน้ำ (SL) ที่ปลดระวางแล้วตั้งอยู่ แม้จะไม่ใช่รถไฟที่วิ่งได้ แต่ฉันแนะนำสถานที่นี้ไว้สำหรับผู้ที่ต้องการชมรถจักรไอน้ำแต่ไม่สามารถนั่งรถไฟได้เนื่องจากวันเวลาการวิ่งที่จำกัดของรถไฟ ตัวรถไฟมีสีดำขลับทำให้ได้ภาพที่สวยตะลึงเมื่อถ่ายคู่กับดอกซากุระสีชมพูสวย

 

ต้นซากุระพันธุ์ย้อยตามแนวทางเดิน Nicchu Line Memorial Cycling Pedestrians’ Path (เครดิตรูปภาพ: 福島県観光物産交流協会)

 

ทางรถไฟสายเก่าของ Nicchu Railway Line ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นเส้นทางสำหรับนักปั่นจักรยานและคนเดินเท้าที่มีระยะทางยาว 3 กม. โดยมีต้นซากุระพันธุ์ย้อยเรียงรายอยู่ 1,000 ต้น ซากุระพันธุ์ย้อยไม่เหมือนกับสายพันธุ์โซเมโยชิโนะตรงที่กิ่งก้านจะห้อยลงมาด้านล่าง และกลีบดอกมีสีชมพูเข้มกว่า การเดินเล่นใต้ม่านซากุระสีชมพูเหล่านี้คงทำให้รู้สึกผ่อนคลายไม่น้อยเลย

 

⑥ รถไฟ Aizu Railway สถานี Yunokami-Onsen | จ.ฟุกุชิมะ

ช่วงเวลาเที่ยวชม: กลางถึงปลายเดือนเมษายน (แตกต่างกันในแต่ละปี)

การเดินทาง: จากสถานี JR Aizu-Wakamatsu (会津若松駅) บนทางรถไฟ JR Ban-etsu West Line เปลี่ยนไปขึ้น Aizu Railway Aizu Line แล้วลงที่สถานี Yunokami-Onsen (湯野上温泉駅)

 

รถไฟกำลังมาจอดที่สถานี Yunokami-Onsen (เครดิตรูปภาพ: 福島県観光物産交流協会)

 

ยังคงอยู่กันที่จังหวัดฟุกุชิมะ กับสถานี Yunokami-Onsen (湯野上温泉駅) ที่รถไฟ Aizu Railway วิ่งผ่าน ที่นี่มีจุดเด่นคืออาคารสถานีหลังคามุงด้วยฟาง (茅葺き屋根 kayabuki-yane) ที่ชมหาได้ยาก ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ใช้มุงหลังคาที่โออุจิจูกุ (大内宿 Ouchijuku) เมืองเก่าที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ซึ่งมีบ้านหลังคามุงด้วยฟางอยู่ประมาณ 40 หลัง

 

จุดเด่นสองอย่างของสถานี Yunokami-Onsen คือหลังคามุงด้วยฟางและออนเซ็นเท้า (เครดิตรูปภาพ: 福島県観光物産交流協会)

 

ที่สถานี Yunokami-Onsen คุณสามารถดื่มด่ำบรรยากาศย้อนยุคไปกับรถไฟที่วิ่งเข้าออกสถานีพร้อมด้วยซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะและหลังคาฟางที่เป็นเอกลักษณ์ของสถานีซึ่งเป็นภาพที่จะพาคุณย้อนเวลากลับไปยังอดีต อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถานี Yunokami-Onsen ก็คือ ออนเซ็นเท้า (足湯 ashiyu) ที่มองเห็นชานชาลาได้และสามารถใช้บริการได้ฟรี ซึ่งถ้าได้แช่เท้าในฤดูใบไม้ผลิที่อากาศเย็นและสามารถชมดอกซากุระไปด้วยได้ล่ะก็ จะยิ่งรู้สึกมีความสุขสุดๆ ไปเลย

  

⑦ Watarase Keikoku Railway Gо̄do Station | จังหวัดกุนมะ

ช่วงเวลาเที่ยวชม: ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน (แตกต่างกันในแต่ละปี)

การเดินทาง: จากสถานี JR Kiryū (桐生駅) บนทางรถไฟ JR Ryomo Line เปลี่ยนไปขึ้น Watarase Keikoku Railway Watarase Keikoku Line แล้วลงที่สถานี Gо̄do (神戸駅)

 

อุโมงค์ซากุระและดอกท้อฮานะโมโมะทำให้สถานี Gо̄do ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น (เครดิตรูปภาพ: photoAC)

 

เดินทางออกจากภูมิภาคโทโฮคุขยับเข้ามาใกล้โตเกียวมากขึ้น จุดหมายถัดไปของเราคือ Watarase Keikoku Railway เส้นทางรถไฟที่วิ่งระหว่างจังหวัดกุนมะและจังหวัดโทจิกิในภูมิภาคคันโต ทางรถไฟสายนี้วิ่งผ่านแม่น้ำวาตาราเสะ (Watarase River) และช่องเขาที่สวยงามราวกับภาพวาด พร้อมด้วยทิวทัศน์ที่สามารถเพลิดเพลินได้จากหน้าต่างรถไฟ เมื่อเข้าใกล้สถานี Gо̄do (神戸駅) คุณจะพบกับอุโมงค์ดอกไม้สีชมพูรอต้อนรับอยู่ (หมายเหตุ: สถานี Gо̄do ใช้ตัวอักษรคันจิเดียวกับสถานี Kо̄beในภูมิภาคคันไซ ระวังอย่าสับสนนะ!)

 

ดอกซากุระและดอกท้อสวยๆ รอบสถานี Gо̄do (เครดิตรูปภาพ: photoAC)

 

แม้ว่าตลอดเส้นทาง Watarase Keikoku Line จะมีหลายจุดที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับการชมซากุระและรถไฟได้ แต่คนส่วนใหญ่ก็เห็นตรงกันว่าจุดที่ดีที่สุดคือบริเวณรอบๆ สถานี Gо̄do ซึ่งเราจะได้เห็นดอกซากุระโซเมโยชิโนะสีชมพูอ่อนตัดกับดอกฮานะโมโมะ (花桃 ดอกท้อ) สีชมพูเข้มทำให้ได้บรรยากาศที่เหมือนกับโลกแฟนตาซีขึ้นมา ฮานาโมโมะเหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวและแฟนๆ

 

Seiryu ร้านอาหารที่เปิดโดยใช้ตู้รถไฟเก่าเป็นร้าน (เครดิตรูปภาพ: : : Ys : : /   CC BY-ND 2.0)

 

หิวหรือเปล่าเอ่ย? สิ่งหนึ่งที่ทำให้สถานี Gо̄do น่าสนใจก็คือร้านอาหารบนชานชาลาที่ชื่อว่า Seiryu (清流) ซึ่งถูกสร้างอยู่ในตู้รถไฟซีรีส์ 1720 สองตู้ที่เคยใช้ในรถไฟสาย Tobu Railway ถ้าคุณได้ไปที่นี่ อย่าลืมลองชิมเมนูแนะนำอย่างแกงกะหรี่เห็ด (きのこカレー) ไมตาเกะโซบะ (舞茸そば) และเซ็ตหมูย่างขิง (しょうが焼き定食) ดูนะคะ คุณสามารถซื้อเอกิเบ็น (駅弁 ข้าวกล่องสำหรับรับประทานบนรถไฟ) ได้ที่นี่ด้วย

 

⑧ SL・Sakura・Nanohana Road | จ.โทจิกิ

ช่วงเวลาเที่ยวชม: ปลายมีนาคมถึงต้นเมษายน (แตกต่างกันในแต่ละปี)

การเดินทาง: จากสถานี JR Shimodate (下館駅) บนทางรถไฟ JR Mito Line เปลี่ยนไปขึ้น Moka Railway Moka Line แล้วลงที่สถานี Kitamoka (北真岡駅) จากสถานี Kitamoka ไปยังจุดชมวิวใช้เวลาเดิน 8 นาที

 

ภาพทิวทัศน์อันสวยไร้ที่ติของ Moka ดอกซากุระ และดอกนาโนะฮานะ (เครดิตรูปภาพ: JR East / Shinoda)

 

คงไม่มีอะไรดีไปกว่าวิวซากุระและรถไฟ วิวของดอกซากุระและนาโนะฮานะ (菜の花 ดอกเรพซีด) สีเหลืองสดใส ซึ่งดูสวยงามยิ่งขึ้นเมื่ออยู่กับรถจักรไอน้ำ (SL) และไอน้ำที่พวยพุ่งออกมา! ถนน SL・Sakura・Nanohana (SL・桜・菜の花街道 SL Sakura Nanohana Kaidо̄) ริมทางรถไฟ Moka Railway Moka Line มีวิวนี้ให้คุณชมได้ จุดชมวิวที่อยู่ห่างจากสถานี Kitamо̄ka (北真岡駅) ไปประมาณ 500 เมตร.ทางทิศตะวันออกนั้น เป็นจุดที่ดึงดูดคนรักรถไฟจากทั่วประเทศให้มารวมตัวกันเพื่อดูรถจักรไอน้ำ SL Moka (SLもおか号 SL Mо̄ka-gо̄) โดยเฉพาะ

 

SL Moka ให้บริการเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดบางวันเท่านั้น หากต้องการดูปฏิทินฉบับเต็มและสถานที่จองตั๋วโดยสาร SL โปรดไปที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น) รถไฟ SL Moka วิ่งเพียงปีละสองวันเท่านั้น โดยจะวิ่งหนึ่งครั้งในช่วงสุดสัปดาห์หนึ่งขณะที่ซากุระกำลังบานเต็มที่ โดยให้บริการไปกลับวันละ 1 เที่ยว วิ่งผ่าน SL・Sakura・Nanohana Road ในระหว่างเวลา 11:13–11:25 น. และ 15:11–15:28 น. 

 

ทิวทัศน์ของรถไฟ Moka Railway ขบวนธรรมดาที่ SLSakuraNanohana Road (เครดิตรูปภาพ: photoAC)

 

SL・Sakura・Nanohana Road นั้นเรียงรายไปด้วยต้นซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะประมาณ 800 ต้น และต้นซากุระพันธุ์ย้อยกว่า 200 ต้น โดยมีทุ่งนาโนะฮานะกว้างใหญ่อยู่ด้านข้าง ต่อให้คุณไม่สามารถนั่งรถไฟ SL Moka ในวันใดวันหนึ่งจากสองวันที่รถไฟวิ่งได้ แต่การเดินทางไปชมทิวทัศน์โดยรถไฟ Moka Railway ขบวนธรรมดาก็ยังถือว่าคุ้มค่า! โดยตัวรถไฟนั้นจะมีด้านบนเป็นลายตารางหมากรุกสีเขียวและด้านล่างตกแต่งด้วยสีแดงสด

 

⑨ Kominato Railway Line | จ.ชิบะ

ช่วงเวลาเที่ยวชม: ปลายมีนาคมถึงต้นเมษายน (แตกต่างกันในแต่ละปี)

การเดินทาง: จากสถานี JR Goi (五井駅) บนทางรถไฟสาย JR Uchibo Line เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Kominato Railway Line

 

“กระจกน้ำ” ใกล้กับสถานี Itabu (เครดิตรูปภาพ: 千葉県観光物産協会 and photoAC)

 

ที่สุดท้าย ในจังหวัดชิบะ เรามีทางรถไฟสาย Kominato Railway Line ที่จะพาเราไปเพลิดเพลินกับทั้งดอกซากุระและนาโนะฮานะได้แบบเต็มอิ่ม วิวหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาดคือ “กระจกน้ำ” (水鏡 mizukagami) ใกล้กับสถานี Itabu (飯給駅) ผืนน้ำนิ่งราวกับกระจกในนาข้าวนี้สะท้อนภาพของรถไฟที่วิ่งผ่านไปมาและทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างลงตัว เป็นวิวทิวทัศน์ที่จะมหัศจรรย์ยิ่งขึ้นในตอนกลางคืนเมื่อต้นไม้มีไฟประดับสว่างไสว

 

เพลิดเพลินไปกับซากุระและนาโนะฮานะได้ตาม Kominato Railway Line (เครดิตรูปภาพ: photoAC)

 

นอกจากซากุระแล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับดอกนาโนะฮานะตามจุดต่างๆ ตลอดเส้นทางได้ด้วย โดยสามารถเดินไปยังทุ่งนาโนะฮานะอันกว้างใหญ่ได้ใน 15 นาทีจากสถานี Yōrōkeikoku (養老渓谷駅) ซึ่งอยู่ห่างจากสถานี Itabu เพียง 3 สถานีเท่านั้น

 

โดยทั่วไป รถไฟพิเศษแบบเปิดโล่ง Satoyama Torokko Ressha (里山トロッコ列車) จะวิ่งให้บริการตามทางรถไฟ Kominato Line ในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น แต่ในช่วงที่ดอกซากุระและนาโนะฮานะบาน รถไฟดังกล่าวจะวิ่งในวันธรรมดาด้วย รถไฟที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงขบวนนี้ติดตั้งหัวรถจักรไอน้ำจำลองเพื่อรำลึกถึงรถจักรไอน้ำ SL ปลดระวางที่เคยวิ่งบนเส้นทาง  Kominato Line มาก่อน

 

การเดินทางไปที่นั่น

ภูมิภาคญี่ปุ่นตะวันออกเต็มไปด้วยสถานที่มากมายให้คุณได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติ โดยเฉพาะดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ วิวของดอกไม้จะยิ่งมีเสน่ห์มากขึ้นเมื่อมีรถไฟวิ่งผ่าน ซึ่งให้องค์ประกอบภาพที่มีพลัง ครั้งต่อไปที่คุณมาเที่ยวญี่ปุ่นตะวันออกในฤดูใบไม้ผลิ อย่าลืมแวะเยี่ยมชมสถานที่เหล่านี้ดูนะคะ!

 

JR EAST PASS (Tohoku area)

JR EAST PASS (Tohoku area) แบบใหม่และพื้นที่ที่ใช้ได้ (เครดิตรูปภาพ: JR East)

 

ถ้าคุณกำลังวางแผนเดินทางไปเที่ยวภูมิภาคคันโตและโทโฮคุ ขอแนะนำ JR EAST PASS (Tohoku area) ตั๋วเดินทางราคาย่อมเยาที่ใช้ขึ้นรถไฟได้ไม่จำกัดตามเส้นทางรถไฟ JR East (รวมถึงชินกันเซ็น) ภายในระยะเวลา 5 วันติดกัน ตั๋วนี้มีราคาเพียง 20,000 เยนเท่านั้น ซึ่งถูกกว่าค่าโดยสารรถไฟไปกลับโตเกียว-อาโอโมริ (~36,000 เยน) คุณยังสามารถสำรองที่นั่งออนไลน์ได้ฟรี โดยจองล่วงหน้าได้นานสุดถึง 1 เดือน ที่นี่ ตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) สามารถใช้ได้กับประตูอัตโนมัติ และผู้ที่ถือหนังสือเดินทางต่างชาติที่พำนักในญี่ปุ่นมีสิทธิ์ใช้ตั๋วนี้ได้เช่นกัน

 

หมายเหตุ: ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2021 ได้มีการเปลี่ยนแปลงการใช้งานและราคาของ JR EAST PASS (Tohoku area) ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

JR TOKYO Wide Pass

JR TOKYO Wide Pass และพื้นที่ที่ใช้ได้ (เครดิตรูปภาพ: JR East)

 

ถ้าคุณวางแผนจะเดินทางไปเที่ยวเฉพาะภูมิภาคคันโต  (⑦〜⑨) ขอแนะนำ JR TOKYO Wide Pass ตั๋วเดินทางราคาย่อมเยาที่ใช้ขึ้นรถไฟได้ไม่จำกัดตามเส้นทางรถไฟ JR East (รวมถึงชินกันเซ็น) ภายในระยะเวลา 3 วันติดกัน ตั๋วนี้มีราคาเพียง 10,180 เยน ซึ่งถูกกว่าค่าโดยสารรถไฟไปกลับจากโตเกียว-สถานีคิริว (~11,000 เยน) ตั๋ว JR TOKYO Wide Pass สามารถใช้ได้กับประตูอัตโนมัติ และผู้ที่ถือหนังสือเดินทางต่างชาติที่พำนักในญี่ปุ่นมีสิทธิ์ใช้ตั๋วนี้ได้เช่นกัน

 

เครดิตภาพส่วนหัว: JR East / Shinoda
Translated by ANNGLE

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Share this article:
TSC-Banner
2410.Azumino-Right