Rail Report: อิ่มอร่อยบน TOHOKU EMOTION รถไฟภัตตาคารตัวตึงแห่ง JR East
ในการรู้จักภูมิภาคหนึ่งนั้น วิธีไหนเล่าจะดีไปกว่าการอร่อยกับอาหารที่ยอดเยี่ยมของมัน? ภูมิภาคโทโฮคุ (東北地方 Tōhoku Chihō) เป็นแหล่งขุมทรัพย์ที่รวมทรัพยากรธรรมชาติและประเพณี โดยเฉพาะในด้านอาหารทะเลและผลผลิตที่สดอร่อย
TOHOKU EMOTION (東北エモーション Tōhoku Emōshon) เป็น Joyful Train ธีมอาหารขบวนหลักของ JR East ที่บนทางรถไฟสาย Hachinohe ระหว่างสถานี Hachinohe (八戸駅 Hachinohe-eki) ในจังหวัดอาโอโมริ ไปยังสถานี Kuji (久慈駅 Kuji-eki) ในจังหวัดอิวาเตะ (岩手県 Iwate-ken)
รถไฟ TOHOKU EMOTION ที่วิ่งไปตามชายฝั่งซันริคุ (เครดิตภาพ: JR East)
รถไฟขบวนนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 2013 เพื่อเชิดชูภูมิภาคที่ยอดเยี่ยมแห่งนี้ และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ณ ชายฝั่งซันริคุ โดย TOHOKU EMOTION เป็นรถไฟภัตตาคารระดับ Fine-Dining ที่รวมเอาองค์ประกอบของความเป็นท้องถิ่นและความหรูหราเข้ามาไว้ในประสบการณ์มื้ออาหารของมัน การเดินทางบน “ทางรถไฟภัตตาคารแห่งโทโฮคุ” นี้จะกระตุ้นต่อมรับรสของคุณด้วยบรรดาวัตถุดิบที่ผลิตในท้องถิ่นโทโฮคุที่อยู่ในอาหารทุกจาน และทำให้คุณมีความสุขไปกับการบริการระดับห้าดาวจากพนักงานที่ทุ่มเท
เมนูของ TOHOKU EMOTION จะเปลี่ยนไปทุกๆ 3-6 เดือน ดังนั้นฉันจึงแนะนำให้มาขึ้นรถหลายๆ ครั้งให้ได้เพื่อเพลิดเพลินกับอาหารและวิวชายฝั่งที่มีมนต์เสน่ห์จับใจ ซึ่งฉันมีโอกาสขึ้นรถไฟที่ยอดเยี่ยมขบวนนี้หลายครั้ง และในบทความนี้ฉันจะมาพาคุณดูว่าการเดินทางบนรถไฟขบวนนี้ในเดือนตุลาคมปี 2022 นั้นเป็นอย่างไรบ้าง คุณหิวหรือยัง? มาเริ่มกันเลย!
ออกเดินทางจากสถานี Hachinohe
สถานี Hachinohe (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
เราขึ้นรถไฟ Tohoku Shinkansen ไปยังสถานี Hachinohe และพอมีเวลาว่างให้ฆ่าเล่นระหว่างรอ TOHOKU EMOTION พวกเราจึงเดินเตร่ไปรอบๆ เพื่อมองหาของฝาก ซึ่งในเดือนธันวาคม 2022 รถไฟ Tohoku Shinkansen ระหว่างโมริโอกะไปยังฮาจิโนะเฮะนั้นมีการฉลองครบรอบ 20 ปีพอดี โดยฉันเจอและได้ซื้อขวดเหล้าสาเก (酒 สุราหมักจากข้าว) ท้องถิ่นของอาโอโมริขวดนี้ ซึ่งมีดีไซน์พิเศษฉลองโอกาสครบรอบที่ว่านี้ด้วย ของฝากยอดนิยมอื่นๆ ได้แก่ขนมขบเคี้ยวที่มีผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่ขึ้นชื่อของอาโอโมริ
ตื่นเต้นที่จะได้ขึ้น TOHOKU EMOTION (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
เวลาผ่านไปเร็วในพริบตา และไม่นานพวกเราก็ต้องมุ่งหน้าไปยังชานชลาเพื่อขึ้น TOHOKU EMOTION รถไฟขบวนนี้มักมาถึงที่ชานชลาก่อนเวลาออกรถประมาณหนึ่ง ดังนั้นฉันแนะนำให้ไปถึงที่เร็วนิดหนึ่งถ้าคุณอยากถ่ายรูปรถไฟหรือถ่ายรูปกับขบวนรถไฟ
ด้านนอกของ TOHOKU EMOTION (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ด้านนอกของรถไฟเป็นสีขาว โดยมีดีไซน์ที่ทำให้ดูเหมือนกำแพงอิฐ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นการปูพรมแดง และการมีชายคาเล็กๆ กับตะเกียงอยู่เหนือประตูทำให้ฉันรู้สึกราวกับกำลังจะเข้าไปในภัตตาคารหรูแห่งหนึ่งจริงๆ
TOHOKU EMOTION มีทั้งหมดสามตู้รถด้วยกัน ได้แก่ตู้รถห้องอาหารแบบเปิดที่คล้ายคลึงกับภัตตาคาร ตู้รถ Live Kitchen ที่คุณสามารถชมเชฟขณะที่กำลังเตรียมมื้ออาหารของคุณได้ และตู้รถห้องส่วนตัวที่มีห้องส่วนตัว 7 ห้องที่บรรจุได้ห้องละสี่คน
คอร์สอาหารกลางวันจากฮาจิโนะเฮะไปยังคุจิ
ตู้รถห้องส่วนตัวบนรถไฟ TOHOKU EMOTION (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
พวกเราโชคดีมากที่ได้ตู้รถห้องส่วนตัว ซึ่งให้เราได้ทั้งพื้นที่และความเป็นส่วนตัว รวมถึงได้เห็นวิวมหาสมุทรแปซิฟิกที่สวยหาเทียบไม่ได้ขณะที่รถไฟเดินทางไปตามชายฝั่งซันริคุ
ในการเดินทางขาออกจากฮาจิโนะเฮะไปยังคุจิ แขกผู้ทานอาหารจะถูกเสิร์ฟด้วยคอร์สอาหารกลางวัน 4-5 จาน ตอนที่ฉันนั่ง TOHOKU EMOTION เมื่อเดือนตุลาคมปี 2022 คอร์สอาหารกลางวัน 4 จานเป็นเมนูที่ได้แรงบันดาลใจจากอาหารฝรั่งเศส และสรรค์สร้างโดยเชฟอุเอฮาระแห่งภัตตาคาร “Lien” ในโตเกียว ซึ่งเสิร์ฟอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบท้องถิ่นของจังหวัดอาโอโมริ
เครื่องดื่ม Welcome Drink และอาหารเรียกน้ำย่อยเพื่อเริ่มการเดินทาง (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
มื้ออาหารเริ่มต้นด้วย Welcome Drink โดยมีอาหารทะเลและผักที่เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยตามมาติดๆ ต่อด้วยปลามะไดในซอสเห็ดสำหรับจานปลา อกเป็ดอบเป็นจานหลัก และปิดท้ายด้วยของหวานที่คัดสรรมาเสิร์ฟในกล่องไม้สวยประณีต
Aomori Cidre คืองสิ่งที่ต้องลอง (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ตลอดการนั่งรถไฟนั้นเครื่องดื่มจะเสิร์ฟแบบไม่อั้นตราบใดที่สต็อกยังไม่หมด และฉันแนะนำให้ลอง Aomori Cidre ซึ่งเป็นสปาร์คกลิ้งไซเดอร์อร่อยหมักจากแอปเปิ้ลท้องถิ่นของอาโอโมริ เครื่องดื่มท้องถิ่นอื่นๆ นั้นรวมถึงไวน์แดงและขาวจากแถบทาคาฮาตะของจังหวัดยามากาตะ น้ำแอปเปิ้ลจากจังหวัดอาโอโมริ และน้ำแร่จากถ้ำริวเซ็นโดของจังหวัดอิวาเตะ เครื่องดื่มอื่นๆ เช่นเบียร์ เบียร์แบบไร้แอลกอฮอล์ ชาเอิร์ลเกรย์แบบเย็น ชาดาร์จีลิงร้อน กาแฟ น้ำส้มและเครื่องดื่มอื่นๆ ก็มีเช่นกัน
อาหารเรียกน้ำย่อยสุดอร่อย (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
หลังจากที่ Welcome Drink ถูกเสิร์ฟได้สักพัก อาหารเรียกน้ำย่อยก็ถูกเสิร์ฟมาในกล่องไม้พอโลเนียจากแถบไอสึ เมื่อเปิดฝาเราจะเห็นห้าผลงานที่สวยงามและประณีตซึ่งมีธีมฤดูใบไม้ร่วง
- ผักประจำฤดูใบไม้ร่วงหมักซอส (秋野菜のマリネ)
- ปลาซัมมะ Escabeche (秋刀魚のエスカベッシュ)
- Fromage de tête (フロマージュドテッド)
- เค้กชิฟฟ่อนที่ใช้กากสาเกของจังหวัดอาคิตะ (秋田県産酒粕のシフォンケーキ)
- มูสหัวหอมใหญ่ (玉ねぎのムース)
อาหารเรียกน้ำย่อยแต่ละอย่างต่างเป็นเมนูที่กินแล้วมีความสุขมาก แถมให้รสชาติที่หลากหลาย ซึ่งจานที่ฉันชอบที่สุดเลยก็คือปลาซัมมะสุดอร่อยและเค้กชิฟฟ่อนฟูนุ่ม
มื้ออาหารแบบเคลื่อนที่พร้อมวิว (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ด้วยท้องฟ้าครามเข้มแต่งแต้มด้วยเมฆขาวลอยต่ำอ้อยอิ่ง สภาพอากาศในตอนที่เรานั่งรถไฟนั้นถือว่าเยี่ยมไปเลย และระหว่างที่กินอาหารไปพลาง พวกเราก็หยุดมือเป็นระยะๆ เพื่อดื่มด่ำกับวิวและชื่นชมมหาสมุทรแปซิฟิกสีน้ำเงินที่ไร้ขอบเขต ด้วยความที่อยู่ในห้องส่วนตัว พวกเรามีหน้าต่างบานกว้างให้ชมกันเองแบบจุใจ และบรรดาวิวอันน่าตื่นตาเหล่านี้คือไฮไลท์ของการนั่งรถไฟอย่างไม่ต้องสงสัย
อาหารจานปลาได้แก่ปลามะไดเสิร์ฟพร้อมซอสที่อร่อยเหาะ (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
หลังอาหารเรียกน้ำย่อยก็มาถึงอาหารจานปลากัน ได้แก่ปลามะได Meuniere เสิร์ฟพร้อมซุปครีมเห็ด (真鯛のムニエル 数種のキノコのクリームスープ仕立て) โรยหน้าด้วยเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ นี่เป็นจานที่ฉันชอบที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย เนื้อปลามะไดนั้นนุ่มละมุนมาก แถมพอจับคู่กับซุปครีมเห็ดที่ปรุงจากเห็ดนานาชนิดแล้ว มันวิเศษสุดๆ ไปเลย
ไม่มีคำไหนจะบรรยายความดีงามของมันได้เลย! อาหารจานนี้มีขนมปังเป็นเครื่องเคียงเพื่อจุ่มกับซุปแสนอร่อย และฉันบอกได้เลยว่าฉันกินจานนี้หมดโดยไม่เหลือซุปไว้แม้แต่หยดเดียว
อาหารจากหลักคือเนื้อเป็ดอบ (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
อาหารจานหลักได้แก่อกเป็ดสึการุอบ (津軽鴨むね肉のロースト) เสิร์ฟพร้อมกับผักหลากชนิดและเกลือให้จิ้มข้างๆ ตัวเนื้อนั้นนุ่มละมุนและอร่อย และจานที่เสิร์ฟนั้นถูกทำขึ้นจากเครื่องเซรามิกของจังหวัดอิวาเตะ
อาสาสมัครท้องถิ่นกำลังโบกธงชาวประมง (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ขณะที่พวกเรามองออกไปนอกหน้าต่าง พวกเราก็เห็นกลุ่มคนท้องถิ่นกำลังโบกมือให้กับรถไฟขณะที่ขบวนรถวิ่งผ่านทุ่งไร่และบ้านของพวกเขา และมันเป็นความรู้สึกดีที่ได้รับการต้อนรับจริงๆ นอกจากนี้ยังมีอาสาสมัครอีกจำนวนหนึ่งที่มาโบกธงชาวประมงที่ริมชายฝั่งอีกด้วย
จานสุดท้ายของคอร์สนี้ ของหวาน (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ท้ายที่สุดนี้ ของหวานก็มาเสิร์ฟในกล่องไม้งานประณีต ที่เปิดออกให้เห็นชีสเค้ก พุดดิ้ง และมะเดื่อพร้อมเยลลี่ไวน์แดง ฉันจิบชาดาร์จีลิงคู่กับของหวานของฉัน และมันเป็นการปิดท้ายมื้ออาหารอันวิเศษนี้อย่างดีเยี่ยมทีเดียว
สถานี Kuji
สถานี JR Kuji (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
รถไฟมาถึงที่สถานี Kuji และพวกเรามีเวลาสำรวจรอบๆ ราวหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะขึ้นรถไฟกลับไปยังฮาจิโนะเฮะ คุณสังเกตเห็นการตกแต่งรูปหอยเม่นทะเลน่ารักๆ ที่ด้านนอกอาคารสถานีหรือเปล่าเอ่ย?
สถานี Kuji คือที่ที่คุณสามารถต่อรถไฟไปยังทางรถไฟสาย Sanriku Railway Rias เพื่อท่องสำรวจชายฝั่งซันริคุได้ คุจิเป็นที่รู้จักดีในฐานะฉากหลังของอามะจัง ละครช่วงเช้าของ NHK เมื่อปี 2013 ที่ว่าด้วยเรื่องอามะแห่งชายฝั่งโคะโซเดะ อามะ (海女) คือหญิงนักดำน้ำตัวเปล่าที่จับหอยเป๋าฮื้อ หอยเม่นทะเล และหอยอื่นๆ จากทะเล โดยที่หอยเม่นทะเลถือเป็นผลผลิตที่ขึ้นชื่อมากของท้องที่แห่งนี้
แวะไปยังสถานี Kuji ของ Sanriku Railway เพื่อซื้ออุนิ เบ็นโตะชื่อดัง (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
อาคารสถานี Kuji ของ Sanriku Railway นั้นอยู่ติดกับอาคารสถานี JR Kuji และฉันมุ่งหน้าไปที่นั่นเพื่อซื้อสิ่งที่พิเศษมากๆ อย่างหนึ่ง…
ความอร่อยของวันนี้ยังไม่จบนะ! ที่ สถานี Kuji ของ Sanriku Railway มีร้านอาหารเล็กๆ ชื่อว่า Rias Tei (リアス亭) ซึ่งเสิร์ฟอุนิ เบ็นโตะ (うに弁当 ข้าวกล่องหอยเม่นทะเล) แสนอร่อยอยู่ นี่เป็นสิ่งที่ต้องมาซื้อให้ได้เมื่อมาที่สถานี Kuji และฉันซื้อมากล่องหนึ่งสำหรับเป็นอาหารเย็น
อุนิ เบ็นโตะสุดอร่อย (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
อย่าให้กล่องหน้าตาบ้านๆ นี้หลอกคุณเชียว เพราะเมื่อเปิดออกมาคุณจะเจอชั้นอุนิสดสีทองอร่ามรอให้คุณกินอยู่! เบ็นโตะแต่ละกล่องจะมีปริมาณอุนิเทียบเท่าหอยเม่น 5-6 ตัว และข้างใต้นั้นปูด้วยข้าวที่หุงด้วยซุปอุนิที่มีอุมามิอัดแน่น ในวันหนึ่งจะมีขายเพียง 20 กล่องเท่านั้น ดังนั้นแนะนำให้รีบมาเพื่อไม่ให้พลาด
ฉันฝันที่จะได้กินเบ็นโตะนี้มานานแล้ว แต่ครั้งก่อนๆ ที่ฉันมาสถานี Kuji มันก็ขายหมดตลอด ในที่สุดครั้งนี้ฉันก็ได้ลองชิมและมันเป็นมื้อเย็นที่อิ่มอร่อยจริงๆ !
คอร์สของหวานจากคุจิไปยังฮาจิโนะเฮะ
ขึ้นรถไฟกลับไปยังฮาจิโนะเฮะ (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
พริบตาเดียวก็ถึงเวลาที่รถไฟกลับไปยังฮาจิโนะเฮะจะออกเดินทางแล้ว เที่ยวขาเข้าของ TOHOKU EMOTION จากคุจิไปยังฮาจิโนะเฮะนั้นเป็นบุฟเฟ่ต์ของหวาน และถ้าคุณเป็นคนรักขนมหวานล่ะก็คุณจะไม่อยากพลาดแน่นอน
ชุดบุฟเฟ่ต์ของหวานที่กำกับโดยเชฟขนมหวานแห่งโรงแรม Hotel Metropolitan Morioka นี้มีขนมหลากหลายชนิดตั้งแต่เค้ก ไปจนถึงทาร์ต และเยลลี่ รวมถึงของชุดของขบเคี้ยวอร่อยๆ อย่างแฮม ชีส และสลัดซีฟู้ด โดยเครื่องดื่มเสิร์ฟไม่อั้นตราบใดที่ยังมีสต็อกอยู่ เช่นเดียวกันกับของคอร์สอาหารกลางวัน
จานของหวานแรกสำหรับเปิดงาน (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
เริ่มแรก คุณจะได้จานชุดของหวานสามอย่าง โดยหนึ่งในนั้นมีช็อกโกแลต TOHOKU EMOTION มาด้วย สำหรับครั้งนี้เราได้ครีมพัฟเกาลัด เค้กลูกแพร์พร้อมครีมบาวาเรี่ยน และซอร์เบแบล็คเคอร์แรนท์รสเปรี้ยว
วิวจากที่นั่งของพวกเรา (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
สำหรับการเดินทางกลับไปยังฮาจิโนะเฮะ พวกเรานั่งในตู้รถคันที่ 3 ซึ่งเป็นตู้รถห้องอาหารแบบเปิด โดยนั่งในฝั่งที่หันหน้าเข้าหาทะเล วิวจากที่นั่งของพวกเรานั้นวิเศษไปเลย มันดูราวกับภาพวาดสีสันสดใสที่เคลื่อนไหวได้
เมนูบุฟเฟ่ต์แบบ A la carte (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ไม่นานหลังจากที่จานถูกเก็บไป พนักงานก็จะอธิบายเรื่องบุฟเฟ่ต์ให้แขกผู้ทานอาหารฟัง บุฟเฟ่ต์นี้เคยเป็นแถวบุฟเฟ่ต์ที่คุณสามารถตักของหวานใส่บนจานของคุณจนพูนได้ แต่เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของ COVID-19 มันจึงเปลี่ยนเป็นบุฟเฟ่ต์แบบสั่งจานเดียว (A la carte) แทน
แขกผู้ทานอาหารจะได้ดูแผ่นกระดาษที่มีภาพของหวานทั้งหมดที่เลือกได้ และคุณสามารถสั่งได้มากเท่าที่ต้องการ โดยเมนูของหวานจะถูกเปลี่ยนทุกๆ 3-6 เดือนเช่นเดียวกันกับเมนูคอร์สอาหารกลางวัน ดังนั้นเราจึงมีอะไรใหม่ๆ ให้ลองอยู่เสมอ
เริ่มต้นกันด้วยการชิมทุกอย่างบนเมนูมาอย่างละชิ้น (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
มีเมนูของหวานให้เลือกทั้งหมดหกอย่าง
- เค้กช็อกโกแลตคลาสสิก (ガトークラシックショコラ)
- Pain de Gênes ปรุงรสยี่หร่า (アニス風味のパンドジェーヌ)
- ทาร์ตเบอร์รีแดง (赤い果実のタルト)
- นิวยอร์กชีสเค้กพร้อมแอปเปิ้ลคาราเมล (N・Yチーズケーキ&リンゴキャラメリゼ)
- พานาคอตต้าสตรอว์เบอร์รี (苺のパンナコッタ)
- เยลลี่แอปเปิ้ลอาโอโมริ (青森りんごのジュレ)
ปริมาณเสิร์ฟนั้นค่อนข้างน้อย ดังนั้นฉันจึงขอแนะนำให้ลองสั่งทุกเมนูมาอย่างละอัน ลองชิมแต่ละอัน ดูว่าอันไหนที่คุณชอบ แล้วค่อยสั่งอันที่คุณชอบมาเพิ่ม ในบุฟเฟ่ต์ของหวานนี้ ของโปรดของฉันคือเค้กช็อกโกแลตและเยลลี่แอปเปิ้ล มันอร่อยมาก
บรรดาอาหารว่าง (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
นอกจากของหวานแล้ว ยังมีบรรดาอาหารว่างจำนวนหนึ่งด้วย เช่น แฮม ชีสเสิร์ฟบนขนมปังบาแก็ต ถั่ว และอาหารทะเลหมักซอสของโปรดของฉัน
อาหารทะเลหมักซอส อาหารว่างจานโปรดของฉัน (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
อาหารทะเลหมักซอสเป็นของดีที่คาดไม่ถึง มันทั้งหวานฉ่ำและอร่อยมากจนฉันกินไปห้า…หรือมากกว่านั้น มันเป็นจานเล็กๆ ที่มาพร้อมกับกุ้ง หอยเชลล์ และหอยลายหมักซอส โดยซอสหมักที่มีมะเขือเทศเป็นส่วนผสมหลักนั้นอร่อยและชูรสอาหารทะเลได้เป็นอย่างดีจริงๆ
วิวคาบุชิมะที่เห็นได้จากที่นั่งของพวกเรา (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
สภาพอากาศนั้นยังคงยอดเยี่ยมอยู่ และไม่นานพวกเราก็ใกล้มาถึงจุดสิ้นสุดการเดินทางของเราแล้ว ขณะที่พวกเราเข้าใกล้สถานี Same นี้เองเราก็ผ่านคาบุชิมะ เกาะเล็กๆ ที่ขึ้นชื่อเรื่องศาลเจ้าของมัน และโด่งดังในฐานะแหล่งขยายพันธุ์ของอุมิเนโกะ (うみねこ นกนางนวลหางดำ) ช่วงระหว่างมีนาคมและสิงหาคม คุณจะได้ชมนกนางนวลนับพันมารวมตัวกันที่เกาะและศาลเจ้าแห่งนี้ แต่ด้วยความที่เรามาในเดือนตุลาคม เราเลยได้แค่วิวที่วิเศษนี้แทน
ไม่นานหลังผ่านสถานี Same (鮫駅 Same-eki) เราก็เข้าใกล้สถานี Hachinohe ที่เราต้องจบการเดินทางอันยอดเยี่ยมบน TOHOKU EMOTION ลง
ปิดท้าย
บรรดาอาหารที่ฉันได้ชิมบน TOHOKU EMOTION (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ฉันได้นั่งรถไฟอาหารและภัตตาคารในญี่ปุ่นมาแล้วจำนวนหนึ่ง และทั้งหมดทั้งมวลนี้ TOHOKU EMOTION ยังคงเป็นขบวนโปรดของฉันอยู่ด้วยเหตุผลหลายข้อด้วยกัน รสชาติและคุณภาพของอาหาร ทิวทัศน์ริมทะเลชวนตื่นตา การต้อนรับที่อบอุ่นของทุกคนตลอดเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นพนักงานรถไฟ หรือคนท้องถิ่นและอาสาสมัครที่มาโบกมือให้คุณ อ้อ และต้องบวกคะแนนให้ตรงเครื่องดื่มแบบไม่อั้นด้วย
อย่างที่กล่าวถึงไปก่อนหน้านี้ เมนูจะเปลี่ยนไปทุกๆ 3-6 เดือน และทิวทัศน์เองก็จะเปลี่ยนไปทุกๆ ฤดูกาลด้วยเช่นกัน ดังนั้นทุกการนั่งรถไฟขบวนนี้จะเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับฉันเสมอ ถ้าคุณเพิ่มมันเข้าไปในกำหนดการเดินทางของคุณได้ ฉันแนะนำให้คุณนั่งรถไฟ TOHOKU EMOTION รถไฟภัตตคาร Fine-Dining ของ JR East เป็นอย่างยิ่ง!
TOHOKU EMOTION (東北エモーション)
เส้นทาง: Hachinohe ↔️ Kuji บนทางรถไฟสาย JR Hachinohe
ราคา (ขาเดียว): ผู้ใหญ่ 8,600 เยนสำหรับคอร์สอาหารกลางวัน, ผู้ใหญ่ 5,100 เยนสำหรับบุฟเฟ่ต์ของหวาน มีค่าบริการเพิ่มเติม 3,600 เยนต่อห้องสำหรับห้องส่วนตัวบนตู้รถคันที่ 1
ข้อจำกัดการสำรองที่นั่ง: ขั้นต่ำสองท่าน / มากสุดสี่ท่านต่อการจอง
เดดไลน์การจอง: 4 วันก่อนวันเดินทาง
หมายเหตุ: รถไฟ TOHOKU EMOTION เป็นรถไฟที่จำกัดเฉพาะผู้ซื้อแพ็คเกจเท่านั้น คุณไม่สามารถใช้แค่ Rail Pass ในการขึ้นรถไฟขบวนนี้ได้
หมายเหตุ: ราคาดังกล่าวเป็นราคา ณ เดือนมีนาคม 2023 โดยจะมีการปรับราคาขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2023 เป็นต้นไป กรุณาเช็คราคาเมื่อดำเนินการจอง
JR EAST PASS (Tohoku area)
ตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) และพื้นที่ที่ครอบคลุม (เครดิตภาพ: JR East)
ถ้าคุณกำลังเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุเพื่อขึ้น TOHOKU EMOTION และสำรวจจังหวัดอาโอโมริและอิวาเตะทางตอนเหนือ ขอแนะนำ JR EAST PASS (Tohoku area) ตั๋ว Pass ราคาย่อมเยาที่ให้คุณนั่งรถไฟบนทางรถไฟของ JR East ได้อย่างไม่จำกัดเที่ยว (รวมถึงชินกันเซ็น) ในพื้นที่ที่ตั๋วครอบคลุมตลอดระยะเวลา 5 วันติดกัน ด้วยราคาเพียง 30,000 เยน ตั๋วนี้จึงถูกกว่าค่าเดินทางไปกลับระหว่างโตเกียวและฮาจิโนะเฮะ (~33,000 เยน) นอกจากนี้คุณยังสามารถจองที่นั่งบนรถไฟชินกันเซ็น และรถไฟ Joyful Train บางขบวนบนช่องทางออนไลน์ล่วงหน้านานถึง 1 เดือนได้ฟรีที่นี่
ตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) สามารถใช้กับประตูอัตโนมัติได้ และผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นก็สามารถใช้ตั๋วนี้ได้ด้วย
โปรดทราบว่า TOHOKU EMOTION เป็นรถไฟจำกัดเฉพาะผู้ซื้อแพ็คเกจเท่านั้น และคุณจะไม่สามารถใช้แค่ Rail Pass ในการขึ้นรถไฟฟขบวนนี้ได้ คุณต้องดำเนินการจองมื้ออาหารผ่านเว็บไซต์เฉพาะทางที่นี่ (มีเฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
เครดิตภาพปก: JR East / Carissa Loh