ภาพรวมของฤดูหนาวอันเป็นสัญลักษณ์ของไอสึ : อันดับ 1 จุดชมวิวสะพานแม่น้ำทาดามิ และอีกมากมาย!
หากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบรถไฟ คงมีโอกาสที่คุณจะเคยเห็นภาพทิวทัศน์ที่น่าอัศจรรย์นี้มาก่อน: รถไฟสีเขียวและสีขาว วิ่งข้ามสะพานโลหะโค้งตัดกับภูมิทัศน์สีขาวหิมะพร้อมทิวทัศน์ที่สะท้อนในน้ำนิ่งเบื้องล่าง
อันดับ 1 สะพานข้ามแม่น้ำทาดามิ (เครดิตวิดีโอ: JR East)
นี่คืออันดับ 1 สะพานข้ามแม่น้ำทาดามิ ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของไอสึ ในจังหวัด ฟุคุชิม่า เป็นสถานที่หนึ่งที่สามารถสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมและทำให้คุณต้องไปซักครั้ง “ ฉันอยากไปที่นี่สักวัน!” ... หรืออย่างน้อยก็สำหรับฉัน หลังจากเห็นภาพถ่ายมากมายซึ่งส่วนใหญ่เป็นของช่างภาพเคนโค โฮชิ ฉันตัดสินใจว่าวันหนึ่งฉันจะไปเยี่ยมชมบริเวณที่งดงามแบบนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 และในที่สุดฉันก็ทำได้!
รถไฟเจอาร์ทาดามิ (JR Tadami) (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
เริ่มสว่างและเช้าตรู่เวลา 06:00 น. จากสถานีไอสึ-วาคามัตสึ (JR Aizu-Wakamatsu Station) ฉันนั่งรถไฟเจอาร์ทาดามิ (JR Tadami Line)ประมาณ 90 นาทีไปยังสถานีเจอาร์ไอสึ-มิยาชิตะ (JR Aizu-Miyashita)จากสถานีไอสึ-มิยาชิตะ นั่งรถบัสต่อไปอีกประมาณ 10 นาทีเพื่อไปยังมิชิโนะอิกิ มิชิมะจุกุ (Michi-no-eki Mishima-juku ซึ่งเป็นจุดพักรถที่ใกล้กับจุดชมวิวอันดับ 1 ที่สะพานทาดามิที่สุด ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไว้บริการครบถ้วน ทั้งห้องน้ำ,จุดซื้ออาหารและของที่ระลึก นอกจากนี้ยังมีที่จอดรถหากคุณเดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว
อันดับ 1 จุดชมวิวสะพานแม่น้ำทาดามิ
แม้ว่าจะมีจุดชมวิวที่สวยงามอื่น ๆ อีกมากมายของแม่น้ำทาดามิและสะพานต่างๆ แต่การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด คือ ที่จุดชมวิวสะพานทาดามิ จุดชมวิวนี้สามารถเข้าถึงได้ตลอดทั้งปี แต่หลายคนยอมรับว่าในฤดูหนาวมีทิวทัศน์ที่น่าทึ่งที่สุด
ทิวทัศน์จากจุดชมวิว B. (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
เนื่องจากอากาศอบอุ่น ฤดูหนาวในปีนี้จึงมีฝนตกและมีหิมะตกสะสมลงมาไม่มากนัก แต่ทิวทัศน์ก็ยังน่าทึ่ง! หลังจากเดินขึ้นบันไดที่ถูกน้ำแข็งเกาะ มาเพียง 5 นาทีจากมิชิโนะเอกิมิชิมาจูกุ คุณก็จะถึงจุดชมวิว B มีจุดชมวิวหลักสามจุดตามเส้นทางเดิน แต่ยิ่งสูงก็ยิ่งดี! อีก 5 นาทีเราจะนำคุณไปสู่จุดสูงสุด (จุดชมวิว D) ซึ่งคุณจะได้รับรางวัลเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามของ อันดับ 1 สะพานข้ามแม่น้ำทาดามิ น้ำสีมรกตของแม่น้ำทาดามิ และภูเขาโดยรอบ
ทิวทัศน์จากจุดชมวิว C และ D. (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
ไม่บ่อยนัก ที่จะมีรถไฟวิ่งผ่านสะพานในแต่ละทิศทางทุกๆ สองถึงสี่ชั่วโมง ภาพเหล่านี้ถ่ายเวลา 09:06 น. จากจุดชมวิวที่สอง (ซ้าย) และ 09:18 น. จากจุดชมวิวด้านบนสุด (ขวา) สะพานตั้งอยู่ระหว่างสถานีเจอาร์ไอสึ-นิชิคาตะ (JR Aizu-Nishikata ) และสถานีเจอาร์ไอสึ-ฮิโนะฮาระ (JR Aizu-Hinohara) ดังนั้นคุณจึงจะได้เห็น (และได้ยิน!) รถไฟที่ออกจากสถานีเจอาร์ไอสึ-นิชิคาตะ (JR Aizu-Nishikata) ทางด้านซ้ายของสะพาน และนับถอยหลังจนกว่ารถไฟจะผ่านสะพานไป
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จุดชมวิว (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
นักเดินทางคนอื่น ๆ ส่วนใหญ่ที่เราเห็นมาจากไต้หวัน กำลังตื่นเต้นกับการคอยดูเวลาบนนาฬิกาตัวเอง และบรรยากาศรอบๆ ตัว และคอยแจ้งให้คนอื่น ๆ ทราบว่าควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการกดชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปรอไว้เลยเมื่อรถไฟข้ามสะพานจะได้ถ่ายภาพได้ทันและได้ภาพสวยๆ แต่ถึงแม้จะไม่มีรถไฟผ่านสะพาน แต่ทิวทัศน์ก็ยังงดงาม
กระดานสำรวจอย่างไม่เป็นทางการ สำหรับให้นักท่องเที่ยวติดสติกเกอร์ว่าตัวเองมาจากประเทศไหน (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
ที่นี่กำลังสร้างชื่อให้กับตัวเองอย่างช้าๆในหมู่นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ดังนั้นจึงมีป้ายภาษาอังกฤษมากมายหลายแห่งตามสถานีรถไฟ / รถบัส คุณจึงไม่ต้องเป็นกังวลเลยว่าจะหลงทาง
ขั้นบันไดน้ำแข็ง (ซ้าย) และไม้ค้ำ สำหรับยืมใช้ได้ฟรี (ขวา) (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh (ซ้าย) และ JR Times / Tan Sue Lynn (ขวา))
ฉันขอแนะนำอย่างยิ่งว่าให้สวมรองเท้าที่แข็งแรงแบบมีหนามแหลม /หรือเป็นรองเท้าที่มีตุ่มตะปูบนพื้นรองเท้าที่เหมาะสำหรับย่ำหิมะ เพราะจะทำให้การเดินลงไปตามขั้นบันไดทำได้ดีมาก ! น้ำแข็งที่เกาะตามขั้นบันไดทุกขั้น คุณจำเป็นต้องจับโซ่และค่อยๆก้าวลงทีละก้าวอย่างระมัดระวัง มิชิโนะอิกิ มิชิมะจุกุ (Michi-no-eki Mishima-juku ) จะมีไม้ค้ำที่สำหรับเดินบนหิมะหรือพื้นที่เป็นน้ำแข็งให้ยืมฟรีได้ และยังมีบริการให้เช่ารองเท้าด้วย แต่จะมีค่าเช่าเล็กน้อย
ภาพวิวถ่ายจากหน้าต่างรถไฟ. (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
เฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น ที่มีรถบัสวิ่งตรงระหว่างสถานีเจอาร์ไอสึ-วาคามัตสึ (JR Aizu-Wakamatsu ) และ มิชิโนะ อิกิมิชิมะจุกุ (Michi-no-eki Mishimajuku ) เนื่องจากมีรอบรถไฟออกไม่บ่อยนัก เราจึงนั่งรถบัสกลับไปที่ ไอสึ-วาคามัตสึ วิวตามเส้นทางสายเจอาร์ทาดามิ ( JR Tadami Line ) นั้นสวยงามมากดังนั้นหากคุณเป็นเหมือนฉันและต้องการพื้นที่วางขาและทิวทัศน์มากขึ้น ฉันขอแนะนำให้เดินทางโดยรถไฟและกลับโดยรถบัส ส่วนในช่วงเวลาอื่น ๆ ของปี ฉันแนะนำให้ขับรถไปเที่ยวชมสะพานและจุดชมวิวอื่น ๆ ที่สวยงามเช่นกัน แต่ในฤดูหนาวสภาพอากาศที่หนาวเย็นอาจทำให้การขับขี่ไม่ปลอดภัย สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่คุ้นเคยกับถนนในฤดูหนาว ดังนั้นการใช้ระบบขนส่งสาธารณะจึงเป็นหนทางที่ใช้เดินทางดีที่สุด
ในช่วงฤดูหนาว (04 มกราคม - 29 กุมภาพันธ์ 2020) รถบัสวิ่งตรงระหว่างสถานีเจอาร์ไอสึ-วาคามัตสึ (JR Aizu-Wakamatsu ) และ มิชิโนะ อิกิมิชิมะจุกุ (Michi-no-eki Mishima-juku ) ให้บริการโดยรถบัสไอสึ ในราคา 1,200 เยนต่อเที่ยว หรือ ไป-กลับ ในราคา 2,000 เยน มีบริการวิ่งไป-กลับ เพียงวันละ 1 รอบ เฉพาะช่วงเช้าเท่านั้น
- ขาไป : เวลา 7:30 น. รถออกสถานีไอสึ-วาคามัตสึ → เวลา 8:45 น. ถึงที่ มิชิโนะ อิกิมิชิมะจุกุ
- ขากลับ : เวลา 9:40 น. รถออกจากมิชิโนะ อิกิมิชิมะจุกุ → เวลา10:55 น. ถึงที่ สถานีไอสึ-วาคามัตสึ
ปฏิทินปี 2020 มีภาพของสะพานแม่น้ำทาดามิ (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
แม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่การได้อยู่ในจุดชมวิวที่สูง แล้วมองลงไปที่ทิวทัศน์ด้านล่างเป็นสิ่งที่น่าจดจำและอาจเป็นส่วนที่ฉันชอบที่สุดของทริปนี้ ขากลับซื้อปฏิทินจากมิชิโนะ อิกิมิชิมะจุกุ มีภาพถ่ายของสถานที่ต่างๆ ตามแนวเส้นทางรถไฟสายทาดามิ ซึ่งถ่ายโดยช่างภาพเคนโค โฮชิ สักวันฉันจะกลับมาอีกครั้ง เมื่อมีหิมะตกอีก และหวังว่าจะได้มาอีกครั้งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะได้เห็นทิวทัศน์ที่มีสีสันเหมือนปกปฏิทิน
วิวแม่น้ำทาดามิ และสะพานในฤดูใบไม้ร่วง (เครดิตวิดีโอ: JR East)
สะพานข้ามแม่น้ำทาดามิอันดับ 1 ในฤดูร้อน (เครดิตรูปภาพ: 福島県観光物産交流協会)
และอาจจะเป็นอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิ เมื่อมีความเขียวขจีอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะฤดูไหนก็สามารถวางใจได้ว่าจะมีวิวที่สวยงามตระการตาให้ได้ชม
หากคุณพอมีเวลาเหลือ ยังมีที่ที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมายบนเส้นทางรถไฟสาย Tadami Line ซึ่งคุณสามารถชมทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำ Tadami และสะพานมากมาย
วิวจากจุดชมวิว Kaneyama Fureai Hiroba (เครดิตรูปภาพ: photoAC)
หนึ่งในนั้นคือจุดชมวิว Kaneyama Fureai Hiroba (かねやまふれあい広場) ซึ่งอยู่ห่างจากสถานี JR Aizu-Kawaguchi (会津川口駅) โดยเดินออกไปเพียง 800 เมตร คุณสามารถชมวิวที่สวยงามของรถไฟที่แล่นผ่านแม่น้ำโดยมีภูเขาเป็นฉากหลัง ที่ริมฝั่งแม่น้ำคุณสามารถมองเห็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีบ้านเรือนที่มีสเนห์อยู่หลายหลัง มันต้องวิเศษมากที่ได้ตื่นมาเห็นวิวแม่น้ำทุกๆเช้า!
เมืองไอสึ-วาคามัตสึ
ซอสคัตสึด้ง (ซ้าย) และคิตะคาตะราเม็ง (ขวา) (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
กลับมาถึงที่ไอสึ-วาคามัตสึ เวลา 10:55 น. และหิวมาก หลังจากผ่านการเผชิญกับความหนาวที่จุดชมวิว ถือเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารกลางวันก่อนเวลา! เราได้ลองชิมเมนูพิเศษของภูมิภาคไอสึ 2 อย่าง ได้แก่ ซอสคัตสึด้ง (ソースカツ丼 sōsu katsudon) และคิตะคาตะราเม็ง (喜多方ラーメン) ต้องขอยกนิ้วให้ทั้งสองเมนู แม้ว่าโดยส่วนตัวแล้วฉันจะชอบซอสคัตสึด้ง ที่ตัวคัตสึ เนื้อหมูกรอบและรสชาติของซอสที่เด็ดมาก
ปราสาทสึรุกะในฤดูหนาว (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
เมืองไอสึ-วาคามัตสึเป็นที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนสัก 2-3 คืน หากคุณวางแผนที่จะเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในภูมิภาค หลังจากเดินทางไปยังจุดชมวิวสะพานแม่น้ำทาดามิอันดับ 1 ในตอนเช้าแล้วยังมีเวลาเหลือพอที่จะสำรวจปราสาทสึรุกะ หรือ อดีตเมืองโบราณอย่าง โออุจิ จูคุ (Ouchijuku) ในช่วงบ่าย
ปราสาทสึรุกะ นั่งรถประจำทาง จากสถานีไอสึ-วาคามัตสึประมาณ 20 นาที ไอสึ-วาคามัตสึ เป็นเมืองที่มีบ้านของเหล่าซามูไรในอดีต ที่สร้างขึ้นรอบ ๆ ปราสาท ที่มีเอกลักษณ์แห่งนี้ด้วยกระเบื้องหลังคาสีแดง และเป็นปราสาทแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ทำเช่นนั้น
ปราสาทสึรุกะในช่วงดอกซากุระบาน ( เครดิตรูปภาพ : 福島県観光物産交流協会 )
ปราสาทสึรุกะเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นจุดชมซากุระที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของไอสึ-วาคามัตสึ สวนของปราสาทมีต้นซากุระอยู่เกือบ 1,000 ต้นซึ่งจะบานประมาณกลางเดือนถึงปลายเดือนเมษายนและจะมีการประดับไฟในช่วงที่บานเต็มที่ด้วย
กิจกรรมระบายสีตัวอะคาเบโกะ (Akabeko ) (เครดิตรูปภาพ: 福島県観光物産交流協会)
หลังจากเที่ยวชมตัวปราสาทแล้วให้ตรงไปที่ ซึรุไกโจ-ไคคัน (Tsurugajo Kaikan) เป็นจุดที่คุณสามารถลองกิจกรรมระบายสีวัวแดง ที่เรียกว่า อะคาเบโกะ (Akabeko-วัวแดง) ของคุณเอง เป็นเครื่องรางนำโชคแบบดั้งเดิมของภูมิภาค ไอสึ!
หมู่บ้านโบราณโออุจิ จูคุ ( Ouchi-Juku )
หมู่บ้านโออุจิ-จูคุ ในฤดูหนาว (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
โออุจิ-จูคุ เป็นอดีตเส้นทางหลักในการคมนาคมและการค้าของอาณาจักรไอสึ บริเวณนี้จะมีหิมะตกหนักในฤดูหนาว และอาคารบ้านเรือนแบบเก่าของเมืองนี้ จะมุงหลังคาให้หนาทึบเพื่อป้องกันหิมะ ทิวทัศน์ที่นี่จะสวยงามที่สุดในฤดูหนาวเมื่อทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนานุ่ม
เนกิโซบะ (เครดิตรูปภาพ: 福島県観光物産交流協会)
คุณจะพบว่าบ้านหลังเก่าแก่บางหลังที่โออุจิ-จูคุ ถูกเปลี่ยนเป็นร้านอาหารและร้านกาแฟซึ่งหลายแห่งให้บริการอาหารพื้นเมืองที่เรียกว่าเนกิโซบะ (negi soba ネギそば) เส้นโซบะที่รับประทานกับต้นหอม ต้นโตๆ ที่ถูกใช้งานแทนช้อน ในคราวเดียวกันด้วย !
สถานียูโนะคามิออนเซน (Yunokami Onsen-ซ้าย) และ รถบัสย้อนยุค (ขวา) (เครดิตรูปภาพ: JR East / Carissa Loh)
การเดินทางไปที่หมู่บ้านโออุจิ-จูคุ ให้นั่งรถไฟสายไอสึ (Aizu Railway Line 会津鉄道 Aizu Tetsudō) จากสถานี ไอสึ-วาคามัตสึ (Aizu-Wakamatsu) ไปยังสถานียูโนะคามิออนเซน ( Yunokami Onsen 湯野上温泉駅) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นนั่งรถบัสย้อนยุคสุดเท่ห์ ต่ออีก 20 นาทีไปยังโออุจิ-จูคุ ที่สถานียูโนะคามิออนเซน มีบ่อน้ำร้อนสำหรับใช้แช่เท้า (足湯 ashiyu) ไว้ให้ใช้ฟรี ดังนั้นคุณสามารถอบอุ่นร่างกายได้ระหว่างที่รอรถไฟ
การเดินทาง
จากสถานีเจอาร์ โตเกียว(JR Tо̄kyо̄ Station) ไปลงที่ สถานีโคริยามะ (JR Koriyama Station) โดยนั่งรถไฟชินคันเซน ประมาณ 80 นาที
จากสถานีโคริยามะ (JR Koriyama Station) ไปลงที่ สถานีเจอาร์ไอสึ-วาคามัตสึ (JR Aizu-Wakamatsu Station) โดยนั่งรถไฟ JR Ban'etsu West Line ใช้เวลา 65 นาที และจากสถานี Aizu-wakamatsu นั่งรถไฟสายไอสึ (Aizu Line) ไปลงสถานีปลายทาง ยูโนะคามิ ออนเซน (Yunokami Onsen)แล้วนั่งรถแท็กซี่ต่อเข้าไปอีกประมาณ 15 นาที หรือเดินเท้าประมาณ 25 นาที ก็จะถึงหมู่บ้านโออุจิจูคุ
ตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) แบบใหม่และพื้นที่ที่ตั๋วครอบคลุม (Image credit: JR East)
ถ้าคุณมีแพลนเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุ เราขอแนะนำ JR EAST PASS (Tohoku area) ตั๋ว Pass ราคาย่อมเยาที่ปลดล็อคการเดินทางด้วยรถไฟแบบไม่จำกัดในเส้นทาง JR East (รวมถึงชินกันเซ็นด้วย) โดยคุณสามารถนั่งรถไฟรอบโทโฮคุได้เป็นเวลา 5 วันติดกัน ด้วยราคาเพียง 20,000 เยน ตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) สามารถช่วยคุณประหยัดค่าโดยสารรถไฟได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้คุณยังสามารถจองที่นั่งบนรถชินกันเซ็น รถด่วนพิเศษบางขบวน และ Joyful Train ล่วงหน้าได้นานถึง 1 เดือนผ่านช่องทางออนไลน์ที่นี่ได้ฟรี ตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) สามารถใช้งานได้กับประตูอัตโนมัติ และผู้ถือพาสปอร์ตต่างประเทศที่พำนักอยู่ในญี่ปุ่นก็สามารถใช้ตั๋ว Pass นี้ได้เช่นกัน
หมายเหตุ: ความเปลี่ยนแปลงในข้อกำหนดและราคาของตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2021 เป็นต้นไป อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
Header image credit: kenko hoshi / JNTO